วันจันทร์, 13 ตุลาคม 2568

นวัตกรรมปันแสง เพื่อการเกษตรแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูงอย่างยั่งยืน

จะดีกว่าไหม..ถ้าวันนี้เราใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่าง ให้สามารถปลูกพืชผักแบบปลอดสารไปพร้อม ๆ กับการผลิตพลังงานสะอาดใช้

โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนใกล้แนวสายส่ง กฟผ. ที่บ้านโนนยาง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 ในการพัฒนากลุ่มวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่สู่การเป็น กลุ่มกิจการเพื่อสังคม  (Social Enterprise: SE) เพื่อพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน 

โดยได้รับการสนับสนุนพื้นที่แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. จำนวน 30 ไร่ เพื่อประโยชน์ในการทำการเกษตรบนพื้นที่ 400 ตารางเมตร และนำ “นวัตกรรมปันแสง” เข้ามาพัฒนายกระดับระบบเกษตรอัจฉริยะด้วยโรงเรือนโซลาร์เซลล์กึ่งใส สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอำนวยความสะดวก และเพิ่มคุณภาพของผลผลิตพัฒนาไปสู่การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้สูงขึ้น โดยคงอัตลักษณ์ของท้องถิ่นและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค จนกลายเป็นวิสาหกิจชุมชนที่มีความเข้มแข็งและมั่นคง

ระบบโซลาร์เซลล์กึ่งใส (นวัตกรรมปันแสง) เป็นการใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์ในพื้นที่ มาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้ทำระบบน้ำเข้าแปลงผักให้ชุมชนและกิจกรรมทางการเกษตรในพื้นที่ ซึ่งนอกจากแผงโซลาร์เซลล์กึ่งใสที่มีลักษณะเป็นตารางหมากรุกสลับกับช่องใสจะช่วยกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว ยังทำหน้าที่เป็นโรงเรือนที่จะคอยกันฝน บังแดดเพื่อลดการเสียน้ำในพืช ส่งผลให้พืชผลเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น นับว่าเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้จริง ๆ

จากการพัฒนากลุ่มวิสาหกิจชุมชนใกล้แนวสายส่งครั้งนี้ ยังพบว่าพืชเศรษฐกิจที่เหมาะสมต่อการนำระบบโซลาร์เซลล์กึ่งใสมาใช้ในการปลูกผัก ได้แก่ กรีนโอ๊ก เรดโอ๊ก กรีนคอส เรดคอส เคล และกลุ่มพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ ได้แก่ ผักกวางตุ้ง คะน้า พริก ข้าวโพด มันเทศ ผักบุ้ง มะเขือเทศ มะเขือ แตงกวา กะหล่ำปลี ผักแพรว ขึ้นฉ่าย กะเพรา แมงลัก มะละกอ โหระพา ข่า ตะไคร้ ต้นหอม ผักชี ผักสลัด ฟักทอง และพืชสมุนไพรต่าง ๆ เป็นต้น เป็นการยกระดับมาตรฐานการทำระบบการเกษตร ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานประเภทผักปลอดภัยจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด อีกทั้งยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ใช้วัตถุดิบหรือทรัพยากรในชุมชน ได้แก่ ผักเคลผง มันเทศทอดกรอบ และน้ำนมข้าวโพด เป็นต้น ช่วยเพิ่มมูลค่าพืชผักของชุมชน เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับชุมชนมากขึ้นอีกด้วย

จากจุดเริ่มต้นโครงการของหน่วยบำรุงรักษาและปฏิบัติการสายส่ง กับแนวคิดในการใช้ทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผสานความร่วมมือจากทุกฝ่ายและความตั้งใจแน่วแน่ในการผลักดันภารกิจแห่งความยั่งยืนของ กฟผ. จึงนำมาสู่การเกษตรอย่างยั่งยืน คุณ วนิตย์ ตรางา ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนยาง กล่าวว่า “สิ่งที่เราได้รับ มันไม่มีใครได้รับ เพราะบ้านโนนยางเป็นบ้านที่โชคดีมีสายไฟพาดผ่าน เราก็ทำให้ดีที่สุด เพื่อต่อไปลูกหลานกลับมาอยู่บ้านก็จะได้ขายผัก และจะพยายามผลักดันกลุ่มไปให้ถึงตลาดได้มากที่สุด”

เรื่องราวของบ้านโนนยางเป็นบทพิสูจน์หนึ่งว่า แม้ดินแดนที่แห้งแล้งที่สุดก็ยังคงสามารถพลิกเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ได้ หากเราร่วมมือกันพัฒนาด้วยความสามัคคี ความมุ่งมั่น และการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาด ผลลัพธ์จึงสะท้อนออกมาในรูปแบบของความสุขที่งอกงามในสังคมอย่างไม่มีวันโรยรา