
ปรากฏการณ์เกาะความร้อนในเมือง “Urban Heat Island Effect” กลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกในปัจจุบัน ซึ่งควรได้รับความสนใจ เพื่อหาทางช่วยลดผลกระทบดังกล่าวลง
เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่เผชิญกับสถานการณ์นี้ ที่อุณหภูมิในพื้นที่เมืองเฉลี่ยสูงกว่าพื้นที่ชนบท สาเหตุหลักมาจากปริมาณอาคารสูงที่มีมากและวัสดุในอาคารที่มีส่วนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น หากปัญหานี้ได้รับการแก้ไข หรือลดปรากฏการณ์เกาะความร้อนในเมืองลง ไม่เพียงแต่จะทำให้มนุษย์รู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยบรรเทาปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์นี้มีความหมายกับโลกมากขึ้นเช่นกัน
Good AfterGreen อยากพาคุณไปดูตึกสำนักงานของ Sony Corporation บริษัทเจ้าของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติญี่ปุ่น ที่อาศัยการออกแบบอาคารเพื่อลดผลกระทบของปรากฏการณ์เกาะความร้อน และช่วยให้ตึกประหยัดพลังงานมากขึ้น อีกทั้งยังมีพื้นที่สีเขียวให้พนักงานได้ผ่อนคลายเป็นสถานที่ทำงานที่น่ารื่นรมย์ และมีความต้องการให้อาคารส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดอีกด้วย
อาคาร NBF Osaki Building (ชื่อเดิม Sony City Osaki) อาคารสำนักงานสำหรับแผนกวิจัยและพัฒนาของ Sony ตั้งอยู่ที่เขตชินางาวะ จังหวัดโตเกียว อาคารออกแบบโดย Nikken Sekkei บริษัทด้านการออกแบบที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี โดยวางดีไซน์ให้ด้านข้างอาคารแคบ ทำให้ลมพัดผ่านจากอ่าวโตเกียว เข้าถึงอาคารได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง ตัวอาคารจึงทำหน้าที่เสมือนอุปกรณ์ระบายความร้อนขนาดใหญ่ ที่คล้ายกับป่าธรรมชาติ

ออกแบบให้มีพื้นที่ทำงานแบบเปิดโล่ง เพื่อให้เหมาะแก่รูปแบบการทำงานออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งพนักงานจำเป็นต้องพบปะและแยกย้ายกันได้อย่างรวดเร็ว พื้นที่กว้างที่ไร้เสามาขวางกั้น จึงช่วยให้สื่อสารได้ดีขึ้นนั่นเอง
ผนังอาคารด้านตะวันออกถูกปกคลุมด้วยแผ่นระบายอากาศเซรามิกแบบพิเศษ เรียกว่า “BioSkin” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘Sudare’ ม่านไผ่เทคนิคดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่ช่วยให้บ้านได้รับความร้อนจากแสงแดดน้อยลง ผสมกับ ‘Uchimizu’ เทคนิคการพรมน้ำตามถนนเพื่อลดความร้อนในฤดูร้อนในสมัยโบราณของญี่ปุ่น จนเกิดเป็นนวัตกรรมม่านขนาดยักษ์แห่งแรกในโลกที่ใช้แนวคิดระบายความร้อนตามธรรมชาติ ผ่านการหล่อเลี้ยงความเย็นในท่อน้ำ ส่งผลให้สภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมทั้งอาคารเย็นลง

ท่อ BioSkin ทำจากแกนอะลูมิเนียมรีดขึ้นรูป โดยมีเปลือกดินเผาที่มีคุณสมบัติกักเก็บน้ำได้ดี ติดอยู่กับแกนด้วยกาวยืดหยุ่น เมื่อน้ำฝนสะสมบนหลังคา น้ำจะไหลไปยังถังเก็บน้ำใต้ดินซึ่งน้ำจะถูกกรองและฆ่าเชื้อ จากนั้นใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ สูบน้ำขึ้นมาหมุนเวียนผ่านท่อที่วางเรียงตามผนังอาคารรวมถึงส่วนของราวระเบียงด้วย เมื่อน้ำหล่อเลี้ยงภายในท่อระเหยไปพื้นผิวของท่อเซรามิกก็จะเย็นลดลง ส่งผลให้ตัวอาคารและพื้นที่โดยรอบเย็นลงตามไปด้วย
ซึ่งกระบวนการนี้สามารถลดอุณหภูมิภายในอาคารจากการปะทะกับแสงแดดได้มากกว่า 10°C นอกจากนี้ BioSkin ยังช่วยให้อุณหภูมิโดยรอบอาคารจะลดลงประมาณ 2°C อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการลดภาระความร้อนทั้งภายในและภายนอกอาคาร ทำให้ตึกใช้พลังงานจากการเปิดเครื่องปรับอากาศน้อยลง จึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากขึ้น

ปัจจุบันนี้ หลาย ๆ อาคารเร่งสร้างพื้นที่สีเขียวขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบของการก่อสร้าง ที่ส่งผลต่อปรากฏการณ์เกาะความร้อน อย่างไรก็ตามการถือกำเนิดของ BioSkin ได้สะท้อนแนวทางแก้ปัญหาสำหรับการก่อสร้างอย่างยั่งยืน โดยการสร้างอาคารขึ้นมาให้เหมือนกับการปลูกต้นไม้ และติดตั้งระบบที่ทำงานคล้ายกับต้นไม้และป่าไม้ อาคารนี้จึงทำหน้าที่เป็น “จุดเย็น” ในเมืองที่ส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อมทั้งในและนอกอาคารโดยสมบูรณ์
การเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์นี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่ทำให้เห็นว่าการออกแบบดีที่ดีสามารถเปลี่ยนโลกที่ร้อนให้เย็นขึ้นอย่างยั่งยืนได้จริง ๆ
#GoodAfterGreen #Sustainability #Sony #Japan #Architecture #Greenbuilding #GoodToKnow
อ้างอิง
www.researchgate.net/publication/372436458_Analysis_of_urban_heating_island_effect_in_Tokyo_and_sustainable_solution
https://www.nikken.co.jp/en/projects/office/nbf_osaki_building.html
https://www.skyscrapercenter.com/building/bioskin/15470
https://archello.com/project/nbf-osaki-bldg